เทคนิคง่ายๆเพื่อการลดกลื่นปากอย่างได้ผลสำหรับสาวๆ

กลิ่นปาก เป็นปัญหาหนึ่งที่สร้างความกังวลใจและความรู้สึกไม่มั่นใจสำหรับหลายๆคน ซึ่งเป็นผลมาจากแบคทีเรียในช่องปากทำให้เกิดการเน่า มีกลิ่นเหม็นเกิดขึ้น เราสามารถแยกกลิ่นเหม็นออกได้ 4 แบบ คือ กลิ่นที่มาจากด้านหลังของลิ้น กลิ่นของโรคปริทันต์และซอกเหงือก กลิ่นจากฟัน และกลิ่นจากการสูบบุหรี่ ซึ่งบริเวณที่จะพบกลิ่นปากบ่อยๆคือ ที่ลิ้น ร่องเหงือก บริเวณที่อุดฟัน ครอบฟัน โรคปริทันต์ ฟันที่ผุรูกว้าง ฟันปลอมชนิดถอดได้ที่มีเศษอาหารตกค้าง การหลั่งของน้ำลายมากหรือน้อย และในคนสูบบุหรี่ นอกจากนั้นโรคที่เกิดภายในช่องปากและนอกช่องปาก เช่น ไซนัสอักเสบ โรคมะเร็งที่โพรงจมูก โรคทอนซิลอักเสบ โรคปอดเรื้อรัง วัณโรคปอด หรือมะเร็งปอด โรคเกี่ยวกับระบบย่อยอาหาร โรคของระบบขับถ่าย ล้วนแล้วแต่เป็นสาเหตุของกลิ่นปากได้ทั้งสิ้น

วิธีการทดสอบกลิ่นปาก

1.ให้หายใจเข้าเต็มที่ ใช้มือป้องปากและจมูกเอาไว้ แล้วหายใจออกจากปาก จากนั้นให้สูดลมหายใจเข้าทางจมูกเพื่อดมกลิ่นว่าเหม็นหรือไม่
2.ใช้วิธีเลียข้อมือและดมดู หรือในบางคนอาจจะใช้นิ้วมือถูที่บริเวณเหงือกแล้วนำมาดมกลิ่นว่าเหม็นหรือไม่
3.ให้บ้วนน้ำลายออกมาแล้วลองดมกลิ่นน้ำลายดู ถ้าน้ำลายมีกลิ่นก็แสดงว่ามีการปนเปื้อนของเชื้อโรค และอาจเป็นไปได้ว่าน้ำลายนั้นผ่านนิ่วที่ต่อมทอนซิลออกมา
4.วิธีนี้คือการข้อร้องให้คนใกล้ชิดช่วยบอกว่ามีกลิ่นปากหรือไม่

วิธีการลดกลิ่นปากอย่างได้ผล

1. ดื่มน้ำอย่างน้อยวันละ 8 แก้ว เพราะการดื่มน้ำมากๆช่วยล้างแบคทีเรียออกจากน้ำลาย
2. อย่าปล่อยให้ปากแห้ง เพราะจะทำให้ความเข้มข้นของแบคทีเรียในปากเพิ่มมากขึ้นทำให้เกิดกลิ่นปากได้ง่าย
3. ดื่มน้ำมะนาว จะช่วยเพิ่มปริมาณน้ำลาย
4. หลีกเลี่ยงการดื่มกาแฟ เพราะจะทำให้เกิดกลิ่นปากได้
5. แปรงฟันทุกครั้งหลังมื้ออาหาร และอย่าลืมแปรงด้านบนของลิ้นด้วย
6. ถ้าไม่สะดวกจะแปรงฟัน ให้บ้วนปากด้วยน้ำเปล่า และหากแปรงเสียให้เปลี่ยนแปรง
7. ใช้ไหมขัดฟันเป็นประจำ อย่างน้อยวันละ 1 ครั้ง
8. เลิกสูบบุหรี่
9. ตรวจสุขภาพฟันอย่างสม่ำเสมอ